วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ครั้งที่7
บันทึกอนุทิน
วัน ศุกร์ ที่ 3 เดือน  ตุลาคม  พ.ศ.2557
เวลาเรียน 13.10 น. - 16.40 น.
เวลาเข้าเรียน 13.00 น. เวลาเข้าสอน 13.10 น. เวลาเลิกเรียน 16.40 น.


ความรู้ที่ได้รับในวันนี้ 

         กิจกรรมประดิษฐ์สื่อวิทยาศาสตร์   แกนทิชชูมหาสนุก
                อุปกรณ์  1.แกนทิชชู    2. เชือกไหมพรม  3. กรรไกร  4. สี  5.กาว  6.ตุ๊ดตู่  7.กระดาษ 
                       วิธีทำ 

1.ตัดแกนทิชชูออกเป็น2ส่วนเท่าๆกัน 

2.เอาแกนทิชชูมาหนึ่งชิ้น แล้วเจาะรูตรงกลางทั้ง2ด้าน

3.ตัดเชือกไหมพรมประมาณ1วาแล้วสอดกับรูทั้งสองข้าง

4.ตัดกระดาษประมาณ 3x4 นิ้ว

5.วาดรูปวงกลมลงไปบนกระดาษ

6.ตัดกระดาษให้เป็นวงกลม แล้ววาดรูปตามใจชอบ 

7.นำรูปที่วาดเสร็จแล้วไปติดกับแกนทิชชูด้านใดด้านหนึ่ง 




เพื่อนออกมานำเสนอบทความหัวข้อดังนี้


         จากการจัดกิจจกรมทำเครื่องดื่มสมุนไพร เป็นกิจกรรมที่ให้เด็กได้กระทำโดยลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง กิจกรรมจะสอนให้เด็กได้ทักษะการสังเกต เพราะเด็กจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของการทดลอง 
แล้วเกิดข้อสงสัย ทำให้เด็กได้คิดเอง และเรียนรู้ได้ตัวเอง

2.เรื่อง สอนลูกเรื่องแสงและเงา   ผู้เขียน ช่วยศาสตราจารย์ บุบผา เรืองรอง

     การสอนลูกเรื่องแสงและเงา (Teaching Children about Light and Shadow) หมายถึง การจัดกิจกรรมให้เด็กปฐมวัยได้เรียนรู้เกี่ยวกับแสง ซึ่งเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่งที่สิ่งมีชีวิตรับรู้ได้ด้วยตา เป็นเหตุให้มองเห็นสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเราได้และเงา ซึ่งหมายถึง รูปร่างของวัตถุที่แสงผ่านทะลุไม่ได้ ทำให้แลเห็นเป็นเงาตามรูปร่างของวัตถุนั้น
         เด็กจะได้เรียนรู้ถึงแหล่งกำเนิดแสง หรือสิ่งที่ปล่อยแสงออกมา ได้แก่
             - ดวงอาทิตย์ ที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุด
             - สัตว์และพืชบางชนิดมีแสง
             - การเผาไหม้ของวัตถุบางชนิด เช่น พืช แก๊ส เทียนไข น้ำมัน ฯลฯ ทำให้เกิดแสง
             - แสงบางชนิดมนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น เช่น แสงไฟฟ้า ไฟฉาย กล้องถ่ายรูป ฯลฯ
แสงจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว แสงจากพืชและสัตว์บางชนิด และแหล่งกำเนิดแสงอื่นๆที่คนเราทำขึ้น เช่น จากการจุดไฟ เปิดไฟฟ้า เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกและจักรวาล และเป็นประโยชน์ที่ทำให้คนเราดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะมีแสงสว่างช่วยให้คนเรามองเห็น และแสงทำให้เกิดเงา ร่มเงาก็เป็นประโยชน์สำหรับสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลาย ได้อาศัยคลายร้อน ในขณะเดียวกัน หากไม่รู้ถึงโทษของสิ่งเหลานี้ ก็จะทำให้เกิดอันตรายจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น การที่เด็กๆเพ่งมองดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงแรงจ้า ก็จะเป็นอันตรายแก่สายตา หรือการที่ปล่อยให้แสงแดดแผดเผาผิวกาย ก็เป็นอันตรายต่อผิวหนังคือ เกิดแผลไหม้เกรียม แสงอาจเกิดจากการเผาไหม้ของวัตถุเช่น เทียน แก๊ส น้ำมัน พืช แสงเหล่านี้อาจเกิดการเผาไหม้เองตามธรรมชาติ และเกิดจากมนุษย์ทำให้เกิด เมื่อเกิดแล้ว จะทำให้มลภาวะเป็นพิษในโลกนี้ ดังนั้น ธรรมชาติเรื่องแสงและเงาเป็นเรื่องใกล้ตัว อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา จึงควรได้จัดประสบการณ์ให้แก่เด็กปฐมวัย
3.เรื่อง สอนลูกเรื่องแรงโน้มถ่วง    ผู้เขียน ช่วยศาสตราจารย์ บุบผา เรืองรอง

            การสอนลูกเรื่องแรงโน้มถ่วง (Teaching Children about Gravity) หมายถึง การจัดกิจกรรมให้เด็กปฐมวัยได้เรียนรู้เกี่ยวกับแรงที่โลกกระทำต่อวัตถุทุกชิ้น ดึงวัตถุในทิศทางเข้าสู่ศูนย์กลางของโลก ทำให้วัตถุยึดติดกับพื้นโลก มิให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนผิวโลกหรือบรรยากาศของโลกหลุดลอยไปในอากาศได้ ทั้งนี้ เด็กปฐมวัยมีนิสัยสงสัยใคร่รู้เป็นโดยธรรมชาติ การที่เด็กมองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัว และเกิดเรื่องราวให้ชวนคิด ชวนให้สงสัยมีมากมาย รวมทั้งคำถามว่า “อะไรที่ทำให้เรายืนอยู่บนพื้นโลกได้โดยไม่ปลิวหายไปในอากาศ” และ “มีใครบ้างที่อยู่ใต้พื้นโลก เขาหล่นหายไปหรือไม่” คำถามของเด็กมีคำ ตอบ แต่หากผู้ใหญ่บอกเล่าเพียงให้เด็กทราบว่า ที่เป็นเช่นนี้เพราะโลกมีแรงโน้มถ่วง การบอกเช่นนั้นไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เพราะเด็กบอกไม่เห็นแรงโน้มถ่วง แต่หากเด็กได้มีโอกาสตรวจสอบเรื่องนี้จากกิจกรรมง่ายๆ ที่ครูหรือพ่อแม่จัดให้เด็กได้กระทำ จนเกิดเป็นความเข้าใจในเหตุและเห็นผลสอดคล้องกัน จะเป็นการส่งเสริมความคิด ทัศนคติที่ดีและเกิดทักษะที่จำเป็นในการแสวงหาความรู้ต่อๆไปอีกให้แก่เด็ก การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เด็กเรื่องแรงโน้มถ่วงจึงเป็นเรื่องหนึ่งที่เด็กปฐมวัยควรเรียนรู้

4.เรื่อง สอนลูกเรื่องไฟฉาย      ผู้เขียน ช่วยศาสตราจารย์ บุบผา เรืองรอง

             ารสอนลูกเรื่องไฟฉาย(Teaching Children about Flashlight) หมายถึง การจัดกิจกรรมให้เด็กปฐมวัยได้เรียนรู้เกี่ยวกับ เครื่องทำความสว่างประกอบด้วยอุปกรณ์สำคัญคือ จานฉายรูปโค้งสำหรับสะท้อนแสงและหลอดไฟฟ้า ซึ่งบรรจุอยู่ในเรือนกรอบกับสิ่งให้พลังงานที่ก่อให้เกิดแสงสว่าง และหลอดไฟซึ่งบรรจุอยู่ในกรอบกับสิ่งให้พลังงานก่อให้เกิดแสงสว่าง มีหลายชนิด ชนิดที่ถือติดตัวไปมาได้มักทำในรูปกระบอก ทั้งนี้เพราะการจัดสิ่งแวดล้อมที่ดีเป็นเรื่องจำเป็นในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้เจริญเติบโตเป็นเด็กที่มีคุณภาพ กล่าวคือเป็นผู้ที่พัฒนาทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญาได้อย่างเหมาะสมตามวัย ในยุคปัจจุบันสิ่งแวดล้อมสำหรับเด็กปฐมวัยเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพราะความก้าวหน้าทางวิทยาการด้านเทคโนโลยี มีผลให้เกิดมีเครื่องใช้ที่จำเป็นและอำนวยความสะดวกสบายให้คนเรา ดังนั้น การสร้างความรู้ ความเข้าใจ และวิธีใช้เครื่องเทคโนโลยีบางชนิดให้แก่เด็กปฐมวัยจึงเป็นเรื่องจำเป็น ดังเช่น ไฟฉาย ที่คนเราสร้างสรรค์ขึ้น มา เป็นเครื่องใช้ที่ให้แสงสว่างซึ่งเป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการนำเรื่องไฟฉายมาจัดกิจกรรมให้แก่เด็กปฐมวัยจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้ตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร

สิ่งที่นำไปพัฒนา 
           สามารถเอานำความรู้ที่ได้จากการประดิษฐ์สื่อวิทยาศาสตร์ไปสอนเด็กปฐมวัยได้เพราะเป็นสื่อที่ทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน   และนำความรู้ที่ได้จากบทความของเพื่อนที่ออกมานำเสนอไปประยุกต์ใช้กับวิชาที่เกี่ยวข้องได้

เทคนิคการสอน 
          อาจารย์ใช้วิธีการสาธิตในการทำสื่อ และให้นักศึกษาลงมือกระทำด้วยตัวเอง และใช้วิธีการอธิปราย การสร้างองค์ความรู้ และใช้คำถามป้อน และใช้ Power point เป็นสื่อในการสอน 

การประเมิน 
ประเมินตัวเอง
       มีความตั้งใจฟังอาจารย์อธิบายและตั้งใจประดิษฐ์สื่อวิทยาศาสตร์ และร่วมแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามในชั้นเรียน ตั้งใจฟังบทความที่เพื่อนออกไปนำเสนอ 

ประเมินเพื่อน 
      เพื่อนมีความตั้งใจในการประดิษฐ์สื่อ และตั้งใจฟังอาจารย์อธิบายและตั้งใจเพื่อนที่ออกไปนำเสนอบทความ แต่ก็มีบางคนก็ยังคุยกันเล็กน้อย ในขณะที่เพื่อนนำเสนอบทความ

ประเมินอาจารย์
       อาจารย์มีเการเตรียมสื่ออุปกรณ์ในการประดิษฐ์สื่อวิทยาศาสตร์ และใช้วิธีการให้นักศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเองเพื่อฝึกกระบวนการคิด และอาจารย์ยังPowerpoint เป็นสื่อในการบรรยายเกี่ยวกับแผนการจัดประสบการณ์ และยังสอนวิธีการเขียนแผน และเทคนิคต่างๆ
     







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น